วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ประวัติ ลูกประคำ 108 เม็ด


ประวัติความเป็นมา



ในปีพุทธศักราช ๒๒๕ คณะสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียได้ประชุมตกลงกันจัดส่งพระอรหันต์เถระเดินทางออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในดินแดนต่างๆ ในการนี้ได้มอบหมายให้พระอรหันต์สองรูป คือ พระโสณเถระและพระอุตตรเถระ เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาและนำพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มาประดิษฐานในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเมืองนครปฐมในปัจจุบันเป็นจุดศูนย์กลาง เมื่อได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวแล้ว พระอรหันต์เถระทั้งสองรูป จึงได้ออกเดินทางจากเมืองปาฏลีบุตรในประเทศอินเดียโดยนำพระบรมสารีริกธาตุมาด้วยครั้นเมื่อเดินทางผ่านเมืองสะเทิมในประเทศมอญ พระอรหันต์เถระทั้งสองรูปได้พบกับพระฤษีสามองค์ ซึ่งพำนักบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ที่บริเวรภูเขาสุทัศน์คีรีใกล้เมืองสะเทิมคือ พระฤษีคุปตะ พระฤษีจุลละ และพระฤษีเทวิละ พระฤษีทั้ง ๓ องค์นี้ เมื่อได้เห็นพระจริยาวัตรและปฏิปทาอันงดงามของพระโสณเถระและพระอุตตรเถระก็บังเกิดศรัทธาและความเลื่อมใสชักชวนกันไปกราบไหว้นมัสการ และซักถามพระอรหันต์เถระทั้งสองว่า “ท่านเป็นศิษย์ของผู้ใด ใครคือพระศาสดาของท่าน” พระอรหันต์เถระทั้งสองก็ตอบว่า “พระสมณโคดมศากยบุตรอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ของพวกเรา พระองค์คือพระศาสดาของพวกเราทั้งหลาย” พระฤษีสามองค์ เมื่อได้ยินดังนั้นก็ขอร้องให้พระอรหันต์เถระทั้งสองรูป เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพระพุทธศาสนาให้ฟัง พระอรหันต์เถระทั้งสองก็ได้อธิบายให้พระฤษีทั้ง ๓ องค์ฟังโดยละเอียด พระฤษีทั้ง ๓ องค์เมื่อได้ทราบว่าพระรัตนตรัยได้บังเกิดขึ้นในโลกนี้แล้วก็รู้สึกปิติยินดี แต่มีความเสียดายที่ไม่ได้พบเข่เฝ้าพระพุทธองค์ เพราะทรงเข้าปรินิพพานไปนานแล้วถึง ๒๒๕ปี จึงซักถามพระอรหันต์เถระทั้งสองต่อไปว่าพระรัตนตรัยทั้งสามมีคุณเท่าใด พระอรหันต์เถระทั้งสองก็อธิบายให้ฟังว่า คุณของพระพุทธเจ้ามีจำนวน ๕๖ ดังบทสวดพระพุทธคุณ (อิติปิโสภควา) คุณพระธรรมเจ้ามีจำนวน ๓๘ ดังบทสวดพระธรรมคุณ (สวากขาโต) และคุณพระสังฆเจ้ามีจำนวน ๑๔ ดังบทสวดพระสังฆคุณ (สุปฏิปันโน) เมื่อรวมกันแล้ว คุณพระศรีรัตนตรัยมีจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๘


พระฤษีทั้ง ๓ องค์ได้ซักถามต่อไปว่า ในกัปของเรานี้จะยังมีพระพุทธองค์ใหม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่ พระอรหันต์ทั้งสองได้อธิบายให้ฟังว่า ในขณะนี้เราอยู่ในภัทรกัป ซึ่งจะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ๕ พระองค์ พระสมณโคดมนี้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ ในภัทรกัป ดังนั้นในกัปนี้จึงยังเหลือพระพุทธเจ้าที่จะมาบังเกิดขึ้นอีกหนึ่งพระองค์ คือพระศรีอริยเมตไตรย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น